เที่ยวมะนิลา
เที่ยวมะนิลา ทริปนี้เป็นการเดินทางเที่ยวแบบ 2 ประเทศ คือ มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
และ เกาะกวม ประเทศสหรัฐอเมริกา (เกาะกวมอยู่ในเขตปกครองอเมริกา) ชื่อเต็ม คือ ดินแดนกวมของสหรัฐอเมริกา
โดยทริปนี้เราจะขอแยกออกเป็น 2 ตอน ถ้าเขียนทีเดียวทั้ง 2 ประเทศ บอกเลยยาวแน่นอน 555
ดังนั้นเรามาเริ่มกัน ที่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ กันเลยจ้า
การเดินทาง : จากเมืองไทยมีบินตรงจากกรุงเทพฯ – มะนิลา
สกุลเงิน : เปโซฟิลิปปินส์ (PHP) บางสถานที่สามารถใช้เงิน US ได้
เวลา : เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.
ทริปนี้เรา เที่ยวมะนิลา กัน 2 วัน 1 คืน มาดูกันว่าในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เราไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้าง
จะบอกว่าระยะเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ก็สามารถมาเที่ยวมะนิลาได้เหมือนกันจ้า
เราบินจาก สนามบินสุวรรณภูมิ กันแต่เช้า ไปถึงที่ สนามบินมะนิลา เวลาประมาณ 12.00 น. หลังรับกระเป๋า ผ่านตม.เรียบร้อยแล้ว
ก็ขึ้นรถไปเช็คอินกันต่อที่โรงแรม เราพักกันที่โรงแรม Dusit Thani Manila (ดุสิตธานี มะนิลา) อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 30 นาที
และที่เด็ดกว่านั้นโรงแรมอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งเลย เดินไป 2 นาทีก็ถึงจ้าาา โดยเฉพาะ Uniqlo และ H&M ละลายทรัพย์กันสนุกเลยจ้า 555
โรงแรม ดุสิตธานี มะนิลา (Dusit Thani Manila) ก่อตั้งมาได้ประมาณ 20 กว่าปี ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกที่เปิดให้บริการที่ต่างประเทศ
จะบอกว่าแค่ล็อบบี้ก็อลังการมากกกกก ใหญ่และกว้างขวางมาก มีห้องพักมากกว่า 500 ห้องเลย
เช็คอินเรียบร้อยแล้วมาดูห้องที่เราพักกันดีกว่าค่ะ เราพักกัน ที่ ห้องดุสิต เป็นห้องพักพื้นที่ 30 ตร. ม. เตียงคิงส์ไซส์
ห้องพักจะไม่มีระเบียงห้อง แต่จะเป็นกระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกรอบๆ เมืองมะนิลาได้กว้างขวางเลย
รายละเอียดและรูปแบบห้องพัก Type ต่างๆ ของโรงแรม ดุสิตธานี มะนิลา (Dusit Thani Manila) :
www.dusit.com/dusitthani/manila/th/accommodation
มาดูห้องอาหารภายในโรงแรมกันบ้างดีกว่าค่ะ ว่ามีห้องอาหารแบบไหนบ้าง
- เดอะแพนทรี (The Pantry) ให้บริการอาหารอินเดีย, อิตาเลี่ยน และเอเชีย ห้องนี้จะให้บริการอาหารตั้งแต่อาหารเช้า และมื้ออื่นๆยาวไปถึงดึกเลย
- ห้องอาหารญี่ปุ่น อูมุ (UMU) เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นที่ปรุงตามสูตรต้นตำรับแท้ๆ ให้รสชาติของความเป็นญี่ปุ่นในใจกลางกรุงมะนิลา ในบรรยากาศที่ตกแต่งอย่างงดงาม จนได้รางวัลการออกแบบแบบญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยม และยังมีห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว พื้นที่รับประทานอาหารกลางแจ้งซึ่งมีบ่อปลาคาร์ฟ และสวนญี่ปุ่นที่ทำให้เข้ากับบรรยากาศในระหว่างรับประทานอาหาร
- ห้องอาหารเบญจรงค์ (Benjarong) และแน่นอนว่าห้องอาหารนี้ จะว่าไปก็เหมือนจะเป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรมดุสิตเลย ที่จะต้องมีห้องอาหารไทย ที่ยังเป็นรสชาติอาหารไทยแแท้ๆ ห้องอาหารประกอบไปด้วย บาร์ บริเวณที่มีการปรุงอาหารต่อหน้าลูกค้า และห้องส่วนตัว 2 ห้องใหญ่ สำหรับลูกค้าที่มากันแบบหลายๆคน
คลับเลานจ์ที่นี่มีขนาดใหญ่มาก อยู่ที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรม และฟิตเนสที่มีให้บริการตลอด 24 ชม.
รวมไปถึงสระว่ายน้ำที่มีให้บริการ หรือถ้าใครอยากนวดสปา ที่นี่ก็มีให้บริการด้วยจ้า
จะว่าไปที่นี่ก็มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้เก็บภาพเยอะเหมือนกัน เดินวนกันแทบไม่ทั่วเลยจ้า 555
ดูบรรยากาศภายในโรงแรมกันแล้ว มาดูสถานที่เที่ยวใกล้เคียงกันบ้างดีกว่า ว่ามีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง
วันแรกที่มาถึงเราซึมซับบรรยากาศภายในโรงแรมกันล้วนๆเลย ส่วนวันที่ 2 นั้นออกเที่ยวข้างนอกกันจ้า ตามมากันเลยว่าเราไปที่ไหนกันบ้าง
โดยส่วนมากที่กรุงมะนิลานี้จะมีเมืองเก่า Old Town เยอะมาก ยิ่งถ้าเป็นแถวๆ อินทรามูรอส (Intramuros) จะเป็นย่านเมืองเก่า
ในสมัยยุคอาณานิคมสเปนเป็นศูนย์กลางการปกครอง, การศึกษา, วัฒนธรรมและ ศาสนา
รูปแบบอาคารบ้านเรือนเป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์สมัยยุโรปตอนกลาง ที่สวยงามมาก
โบสถ์ซานอะกุสติน (San Agustin Church) มรดกโลกของฟิลิปปินส์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1599 ตามแบบสถาปัตยกรรมโรมันคาทอลิกของสเปน
เป็นโบสถ์หินที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ โบสถ์นี้ใหญ่และกว้างขวางมาก จะบอกว่าวันที่ไปมีคู่แต่งงานกันตั้ง 2 คู่ ได้ดูพิธีแต่งงานที่สวยงามมากเลย
และมื้อกลางวันของวันที่ 2 เราทานกันที่ Illustrado Restaurant เป็นร้านอาหารสไตล์ ฟิลิปปินโน – สแปนนิช
เป็น 1 ในภัตตาคารยอดเยี่ยมของย่านเมืองเก่า Old Town ของมะนิลา สร้างสไตล์สถาปัตยกรรมแบบยุคอาณานิคมสเปน
คือแบบคลาสสิคไปอีกแบบนึง อาหารก็ถือว่าโอเคเลยค่ะ
ซึ่งย่านเมืองเก่าพวกนี้จะอยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 1 ก.ม. ถือว่าไม่ไกลเลยเที่ยวง่ายด้วย
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่เลย คือ รถจิ๊ปนีย์ (Jeepney) ที่ใครมาแล้วแนะนำเลยว่าต้องมาลองนั่งดู
เพราะเป็นรถที่ดัดแปลงมาตั้งแต่สมัยสครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งดัดแปลงมาจากรถจิ๊บ ที่ทหารอเมริกันได้ทิ้งไว้ในช่วงที่สงครามยุติลง
ค่าโดยสารรถจี๊ปนีย์ในปัจจุบันในกรุงมะนิลา เริ่มต้นที่ 4 กิโลเมตรแรก 8 เปโซ และกิโลเมตรต่อไปครึ่งเปโซ
การขึ้น-ลงรถจี๊ปนีย์ไม่มีป้ายที่แน่นอนตายตัวเหมือนป้ายรถโดยสารประจำทาง ผู้โดยสารต้องการจะขึ้นหรือลงตรงไหนก็ได้
จะว่าไปก็คล้ายรถตุ๊กๆบ้านเราเลย เพราะเค้าทำเป็นทั้งรถสองแถว และรถแท็กซี่ด้วย
หลังจากออกไปเยี่ยมชมบรรยากาศรอบนอกแล้วก็กลับเข้าที่พัก เพื่อเตรียมตัวบินกันต่อเพื่อไป ที่ เกาะกวม กันต่อจ้า
จะบอกว่าทริป 2 วัน 1 คืน ที่มะนิลานี้ ก็มาเที่ยวได้เหมือนกันนะ แบบเป็นทริปฉบับสั้นๆ ได้เลย แต่เอาไว้เดี๋ยวรอบหน้าจะมาให้นานกว่านี้
แล้วจะไปเก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้มากกว่านี้เลย แต่ทริปนี้ก็ถือว่าสนุกเหมือนกัน กินอิ่ม นอนอุ่น เที่ยวแบบชิลล์ๆ ก็สนุกไปอีกแบบ
เอาไว้เดี๋ยวโอกาสหน้า ถ้าเราได้ไปฟิลลิปปินส์ แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกนะ ว่าแต่ใครที่อ่านรีวิวนี้จบแล้ว
อย่าลืม!! ไปอ่าน EP.2 กันต่อน๊า บอกเลยว่าดีงามมาก แล้วคุณจะรู้ว่า เกาะกวม เป็น New Dream Destination ที่ต้องไปซักครั้งในชีวิต
และนี่เป็นการเที่ยวฟิลิปปินส์แบบสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ของพวกเรา ที่บอกเลยว่ามีเสน่ต์และน่าสนใจมากๆ
อยากให้เพื่อนๆได้ลองไปสัมผัส เที่ยวมะนิลา กันซักครั้ง หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักประเทศนี้กันเท่าไหร่
แต่บอกเลยว่าถ้าไปแล้วจะติดใจอย่างแน่นอนจ้า ทั้งเมืองเก่าสไตล์ยุโรป ที่ถ่ายรูปสวยมากๆ และศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆ
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่ www.facebook.com/9aooddy.travel
ขอบคุณและสวัสดี
รีวิว by นกเอี้ยง
