Hotel Labaris Khao Yai
Hotel Labaris Khao Yai โฮเทล ลาบาริส เขาใหญ่ เป็นโรงแรมที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและความเป็นท้องถิ่น ที่ยังคงแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ของเขาใหญ่ ถูกเนรมิตรออกมาให้เป็นปราสาทเหมือนในเทพนิยาย ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติ ทำให้เราได้สัมผัสกับสุดยอดแห่งการพักผ่อน และได้มาผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ ที่สร้างสรรค์ดินแดนในจินตนาการให้กลายเป็นเรื่องจริง…
“ท่ามกลางป่าทึบ ภูเขาสูงตระหง่าน และลําธารที่ไหลทอดยาว ที่ “อาณาจักรลาบาริส” ซ่อนตัวอยู่ในน้ัน มีคิงมิโนทอร์ เป็นผู้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้ ว่ากันว่าอาณาจักรลาบาริส คือ ดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมหัศจรรย์เร้นลับแบบที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ เหมือนเส้นบรรจบของความฝัน ความจริง และ จินตนาการ…
คําว่า Labaris มีที่มาจากคําว่า Labyrinth หรือแปลเป็นไทยว่า เขาวงกต ซึ่งก็คล้ายกับความลึกลับน่าค้นหาของดินแดนแห่งนี้ และในขณะเดียวกัน ในเขาวงกตได้ถูกนํามาเป็นกิมมิคสําคัญในการออกแบบเส้นทางสู่ห้องพักของผู้มาเยือนทุกคน”
แค่เกริ่นถึงเรื่องราวของที่พักแห่งนี้ ก็มีอะไรน่าสนใจและน่าติดตามกันแล้วใช่ไหมหล่ะ…
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาผจญภัย… ในดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ไปพร้อมๆ กัน
เปิดประตูลับ… สู่เบื้องหลังการออกแบบ Hotel Labaris Khao Yai
ด้วยความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร จึงทําให้ โฮเทล ลาบาริส เขาใหญ่ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเขาใหญ่ เพราะด้วยการออกแบบที่พักด้วยอาคารหินอ่อนยอดแหลมรูปทรงแปลกตา ซ่อนตัวอยู่ในสวนป่าทุ่งดอกไม้ และการเล่นกับสเปซ การเล่นระดับของพื้นที่ ทําให้เกิดมุมมองที่แปลกตาไม่เหมือนใคร ราวกับถูกโอมล้อมไปด้วยขุนเขาและหลุดเข้าไปอยู่ในดินแดนในจินตนาการ
โดยภายในอาณาจักรลาบาริส ถูกแบ่งออกเป็น “5 Chapter” เหมือนการไล่เปิดเทพนิยายทีละบท โดยแต่ละบทประกอบด้วยอาคารและสวนตามแนวคิดที่แตกต่างกัน ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ ที่ผสมผสานองค์ประกอบของรูปแบบตะวันตกและอิทธิพลจากท้องถิ่น ที่ดูขัดแย้งแต่ลงตัว จึงทําให้ลาบาริส เป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์และรูปแบบเฉพาะที่ไม่เหมือนใครที่ต้องมาซักครั้ง
CHAPTER 1 Welcome Zone : เนินดินที่พำนักของเหล่าสัตว์วิเศษตัวน้อย
เมื่อเราเข้ามาถึงโรงแรม เราจะได้เจอกับสวนสวยสนามหญ้าและดอกไม้นานาชนิด ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของโรงแรม
และในโซนนี้จะมี “Rabbit Cafe” คาเฟ่เล็กๆ แต่ตกแต่งได้อย่างน่ารักซ่อนตัวอยู่ คล้ายกับการจําลองโพรงเล็กๆ ของสัตว์วิเศษตัวน้อย
ภายในคาเฟ่ตกแต่งใช้โทนสีขาวนวลตา เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ล้วนใช้วัสดุที่ทําจากไม้เพื่อเน้นความเรียบง่าย เป็นธรรมชาติมากที่สุด
โดยมีที่นั่งทั้งในโซนแอร์ด้านในร้าน หรือ ด้านนอกที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ร่มรื่น พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ กับตัวตึกที่พัก
ลาบาริสเลือกใช้การผสมผสานเมล็ดกาแฟไทยคุณภาพจนได้เป็น House Blend Coffee ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สายกาแฟต้องมา!!
โดยที่คาเฟ่แห่งนี้มีบริการทั้งเครื่องดื่ม ร้อน-เย็น และยังมีเบเกอร์รีที่ทําสดใหม่ทุกวัน สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้พักที่นี่ ก็สามารถแวะมานั่งชิลล์กันได้
เหมาะสำหรับสาย cafe hopping ที่ชอบถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ และปราสาทหินในจินตนาการ
𝐑𝐚𝐛𝐛𝐢𝐭 𝐂𝐚𝐟é : เปิดให้บริการทุกวัน
ศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 10:00 – 18:00 น.
จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 11:00-17:00 น.
CHAPTER 2 The Heart of Labaris : พบผู้นําทาง… สู่ปราสาทหลังงาม Starry Castle และ Midnight Castle
มาในส่วนของโซนที่ 2 กันบ้าง โดยลูกค้าที่เข้ามาพักจะเปรียบได้กับแขกคนสําคัญของคิงมิโนทอร์ ผู้ปกครองดินแดนลาบาลิสแห่งนี้
จะมีผู้นําทางคอยดูแลต้อนรับพร้อมส่งสารจากคิงมิโนทอร์ ให้เป็นการแทนคําขอบคุณถึงการมาเยือนในดินแดนแห่งนี้
โดยผู้นําทางจะพาแขกผู้เข้าพักผ่านเขาวงกตไปยังที่พํานัก(ห้องพัก) ภายในปราสาท 2 หลัง นั่นก็คือ Starry Castle และ Midnight Castle
ห้องพักในส่วนนี้มีทั้งหมด 60 ห้อง 3 Type คือ Duplex Room, Grand Deluxe Room และ Deluxe Room ซึ่งตัวห้องพักเองก็มีมุมถ่ายรูปสวย
ห้องพักเป็นวิวสวนและสวนดอกไม้นานาพันธ์ุ ทำให้เป็นการพักผ่อนที่พิเศษ มีสิ่งอํานวยความสะดวกอย่างครบครัน Free Wi-Fi ฟรี!! มินิบาร์
ให้ความรู้สึกสงบดังอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ ตัดขาดจากโลกภายนอกอันแสนวุ่นวาย
ห้อง Duplex Room (ห้องพัก 2 ชั้น)
ห้อง Duplex Room (ห้องพัก 2 ชั้น) ห้องนี้จะมีการแบ่งห้องรับแขก กับห้องพักออกจากกันอย่างชัดเจน
ซึ่งห้องนอนจะอยู่ด้านบนชั้น 2 ภายในห้องพักจะเป็นหลังคาสูง ดูโปร่ง โล่ง สบาย ไม่อึดอัด การแตกแต่งภายในดูเรียบหรู แต่ดูดี
มีระเบียงห้องพักให้เราได้มานั่งชมวิวธรรมชาติและภูเขา อยู่ด้านหลังของห้องพัก ช่วงเช้าจะบอกว่าฟินมา ออกมาสูดอากาศเย็นๆ ยามเช้า
ภายในห้องพัก ฟรี!! มินิบาร์ เครื่องดื่มในตู้เย็น กินได้หมด ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ห้อง Deluxe Room
ห้องนี้จะเป็นห้องเริ่มต้น แต่ขนาดห้องไม่เล็กเลย มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่ มีระเบียงให้เรานั่งชมวิวสวยได้เช่นกัน
มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่นอน เตียงใหญ่นอนสบาย มีมุมสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูป
ซึ่งในส่วนของ Lobby ก็จะอยู่ในโซนที่ 2 นี้ด้วยเช่นกัน ทำให้เราเช็คอินเสร็จ เดินเข้าห้องพักได้เลย สะดวก สบาย
CHAPTER 3 Explore The Secret Room : Laughing Stone Garden ไปสู่ สวนอันไร้ขอบเขต “Infinite Forest”
โซนที่ 3 “Chapter ที่ 3” สู่ Laughing Stone Garden และสวนไร้ขอบเขต “Infinite Forest” ที่จะลวงตาคุณก่อนจะค้นพบ Secret Village หมู่บ้านลึกลับที่หลบซ่อนอยู่ ซึ่งจะมีห้องพัก Pool Villa จํานวน 10 หลัง รอคอยที่จะมอบประสบการณ์พักผ่อนแก่ผู้มาเยือนด้วยสระว่ายน้ําส่วนตัว ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดประตูระเบียงห้องนอน พร้อมห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ให้ความอบอุ่นและผ่อนคลาย รองรับได้ทั้งคู่รัก และครอบครัว เหมาะสําหรับช่วงเวลาพักผ่อนสบายๆ หรือจะมาปาร์ตี้กันก็ได้เช่นกัน
CHAPTER 4 Tracking The Beauty of Romance : อิ่มอร่อยกับความสุขที่แสนดื่มด่ำ ที่ The Fable Feast Meat & More
The Fable Feast Meat & More หรือ Labaris Restaurant (ที่หลายคนคุ้นเคย) ร้านอาหารตกแต่งอย่างสวยงามและเรียบหรูด้วยผนังกระจกสูงเพื่อรับชมวิวด้านนอกได้อย่างเต็มที่ พร้อมเสิร์ฟม้ืออาหารสุดพิเศษสไตล์ “Grill Bar and Thai Cuisine” ที่คัดสรรเนื้อช้ันดีจากทั่วโลกมาทําสเต็กที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่
อาทิ เน้ือ 2GR Wagyu Striploin จากประเทศออสเตรเลีย, เนื้อ Jack Creek’s Rib eye steak จาก ประเทศออสเตรเลีย และ 2 GR Tomahawk Wagyu คือจะบอกว่า เนื้อที่นี่โคตรดี ละลายในปาก ใครสายเนื้อต้องไม่พลาด!!
ไฮไลท์อีกอย่างที่ไม่อยากให้พลาด คือ เมนูอาหารทวิสต์ และเมนูไทยฟิวชั่น ที่เลือกใช้วัตถุดิบออร์แกนิก และพืชผักสมุนไพรจากท้องถิ่นมาเป็นส่วนประกอบในคอนเซ็ปต์ Garden To Table
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ Fable Feast Meat & More ก็คือบาร์เครื่องดื่มที่หลากหลาย ทั้งไวน์ชั้นยอดจากทั่วทุกมุมโลก และเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์ พร้อมเครื่องดื่มอีกมากมาย
𝐓𝐡𝐞 𝐅𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐅𝐞𝐚𝐬𝐭 : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น. (Last order 21.30 น.)
ที่ห้องอาหารแห่งนี้ยังเป็นห้องอาหารที่บริการทั้งอาหารเช้าและอาหารกลางวัน
ซึ่งลูกค้าที่ไม่ได้พักก็สามารถแวะมาทานอาหารกลางวัน หรือ มาดินเนอร์ช่วงเย็นก็ได้เช่นกัน
จะบอกว่าเมนูอาหารเช้าของที่นี่อลังการงานสร้างมาก ของกินอย่างเยอะ มีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ กินกันแบบจุกๆ
ส่วนใครที่มาเที่ยวเขาใหญ่แล้วหาร้านอาหารทานช่วงกลางวัน ที่นี่ก็มีให้บริการเช่นกัน
ซึ่งเมนูก็มีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ รสชาติจัดจ้าน ถูกปากคนไทยแน่นอน
อ้อ!! ลืมบอกไป ที่นี่เค้ายังมีบริการ Afternoon Tea ที่เราสามารถสั่งมานั่งทานพร้อมกับถ่ายรูปสวยๆ กันได้อีกด้วย
ไม่ว่าจะทานในส่วนของห้องอาหาร หรือ จะนำมานั่งทานและถ่ายรูปสวยๆ บริเวณริมสระข้างๆ ห้องอาหารก็ได้เช่นกัน
CHAPTER 5 The Meander Wonderer : ธารน้ําสวย
ในพื้นที่โซนสุดท้ายของที่พัก จะเป็นพื้นที่สวนที่มีสระว่ายน้ําออกแบบราวกับแม่น้ําคดเคี้ยวไม่มีที่สิ้นสุด ที่เรียกช่ือว่า Creek มีทั้งแบบ สระสําหรับผู้ใหญ่ หรือ Nomadic Creek และ สระสําหรับเด็ก หรือ Cub’s Creek พร้อมด้วยเครื่องเล่นมากมาย พื้นในส่วนเพลกราวด์เป็นพื้นที่ทำจากวัสดุพิเศษ ที่จะลดอาการบาทเจ็บจากการล้มหรือกระแทก
เป็นมุมสระว่ายน้ำที่สวยและร่มรื่นมากๆ เหมาะกับการมาเล่นน้ำและนั่งพักผ่อน ในบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวขจี ให้ความรู้สึกสดชื่น
ในส่วนของสระเด็กจะมีเครื่องเล่นให้น้องๆ หนูๆ ได้มาสนุกกัน ทั้งอุโมงค์น้ำและมีน้ำพุให้น้องๆได้เล่น
รวมไปถึงสไลเดอร์ ท่ามกลางต้นไม้ เหมือนน้องๆ ได้เล่นน้ำพร้อมกับผจญภัยไปพร้อมๆ กัน
สุดท้ายนี้ เราอยากจะบอกว่า ที่นี่ควรมาซักครั้ง เพราะด้วยบรรยากาศที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ใหญ่สีเขียวที่ร่มรื่น
ทำให้เราได้มาพักผ่อนอย่างเต็มที่ และด้วยตัวโรงแรมได้มีการสร้างเรื่องราวให้เราได้เหมือนอยู่ในเทพนิยายและได้เข้ามาผจญภัยในเขาวงกต
ทำให้เราได้สนุกกับการพักผ่อนไปพร้อมๆ กัน และยังมีมุมให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆ กันอีกเพียบ แนะนำเตรียม F ชุดกันมาให้พร้อม
บอกเลยว่า มาที่นี่ได้รูปกลับไปอัพโปรไฟล์กันถึงปีหน้า แบบให้เพื่อนๆ ได้อิจฉากันแน่นอน 555 ยิ่งช่วงนี้อากาศเย็นสบายยิ่งฟิน…
ข้อมูลติดต่อที่พัก Hotel Labaris Khao Yai (โฮเทล ลาบาลิส เขาใหญ่)
ที่ตั้ง : โรงแรมตั้งอยู่ริมถนนธนะรัชต์ กม.16 เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ติดต่อ : 063-1900-1900, 044-300-999
LINE : @hotellabaris
อีเมล : info@hotellabaris.com
เว็บไซต์ : www.hotellabaris.com
