เมื่อคนขี้หนาว มาตะลุยหิมะครั้งแรก ที่ญี่ปุ่น

เที่ยวซัปโปโร

ถ้าให้พูดถึงที่เที่ยวต่างประเทศ แน่นอนต้องมีประเทศญี่ปุ่นติดอยู่ 1 ในนั้นด้วย เพราะขนาดคนรอบตัวเรา เพื่อนๆ พี่ๆ เค้าก็ยังไปเที่ยวกันเลย แต่เรายังไม่เคยไปกับเค้า 5555 ในใจก็คิดมันน่าไปขนาดนั้นเลยหรอ บางคนไปกันทีละหลายรอบมากในปีเดียวกัน จนมาถึงตาของตัวเอง เอี้ยงกับอู๊ดเพิ่งได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยกันครั้งแรก เอาจริงๆก็แอบตื่นเต้นนิดนึง เพราะไม่เคยไป แล้วเมืองที่เราไป คือเป็นช่วงหิมะตกด้วย

เที่ยวซัปโปโร

และการเดินทางครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปร่วมทริปกับ Best Western Asia ที่ได้ให้โอกาสเราทั้ง 2 คนไปเปิดประสบการณ์ร่วมกัน และครั้งนี้เราเดินทางไปเที่ยวกันที่เมือง ซัปโปโร ตามเรามากันเลยจ้า ว่าไปไหนบ้าง

ทริปนี้เราไปกัน 4 วัน 3 คืน โดยบินไปตอนกลางคืน จากสนามบินดอนเมือง ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงสนามบิน Chitose เมืองซัปโปโร ออกจากสนามบินมาก็ไปจัดของกินกันก่อนเลยจ้า 5555

เปิดประตูรถลงมา โอ้วววว หิมะขาวโพลนนนน หนาวมากกกกกก ><

มื้อแรกของวัน Kani goten เป็นร้านขายอาหารทะเลสด และมีร้านอยู่ด้วย เมนูนี้เป็นแบบคล้ายๆเมนูกระทะร้อนปลาแซลมอน เอาจริงๆเมนูนี้อร่อยเหมือนกันนะคะ

หลังจากเติมพลังเรียบร้อยแล้วก็มาเที่ยวกันต่อเลยจ้า ที่ Jigokudani (Noboribetsu City) จุดนี้บอกเลยคนไทยมาเที่ยวเยอะมาก เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ ถ่ายทำหนังแฟนเดย์ ตรงนี้จะเป็นปากปล่องภูเขาไฟ ขนาดใหญ่มาก และจะมีน้ำพุร้อนกำมะถันอยู่ด้วยตรงด้านใน เป็นแบบธรรมชาติล้วนๆ

หลังจากเดินดูบรรยากาศรอบๆ Jigokudani กันแล้ว ก็ยู่ไม่ไกลก็มาขึ้นกระเช้าไป Bear farm and rope way ให้ขนมน้องหมีกันจ้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเลย นั่งรถประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้ว


นั่งกระเช้าขึ้นไปประมาณ 15 นาทีก็ถึงฟาร์มน้องหมีกันแล้ว ข้างบนเค้าจะมีอาหารขายให้สำหรับเอาไปให้หมี ถุงละ 100 เยน ประมาณ 30บาท
น่ารักมากมีขอขนมด้วย 5555
มีขายของที่ระลึกด้วย น้องหมีน่ารักมากกกกก

มาดูที่พักกันดีกว่าว่าเรานอนที่ไหนกันบ้าง 2 คืนแรก เรานอนกันที่ Best western Sapporo Odori Koen Hotel ที่ตั้งของโรงแรม 8-2 Odorinishi, Chuo-ku, Sapporo-shi, Hokkaido

ถ้าเดินทางจากสนามบิน New Chitose: นั่งรถไฟ JR Chitose Line จากสถานีที่สนามบินมาได้เลย พอถึงสถานี Sapporo ต่อรถไฟใต้ดิน Namboku มุ่งหน้าสู่ Makomanai ลงสถานี Odori ออกตรงทางออก 5 เดินประมาณ 7 นาที ถึงโรงแรม


ที่โรงแรมจะตกแต่งสไตล์โทนสีขาว และจุดเด่นของโรงแรมเลยคือ ตอนกลางคืนจะเห็นชัดมาก โดยแสงสว่างไฟของโรงแรมนี่คือสะดุดตาเลย
ตอนกลางคืนเดินมาเห็นไฟของโรงแรมชัดจริงๆ แล้วก็สวยเด่นเลย
โรงแรมตั้งอยู่ติดกับถนนหลักเลย ไม่ต้องเข้าซอย อยู่แถวสวนโอโดริ อยู่ใกล้สถานีโอโดริ เดินประมาณ 5-10นาที
อันนี้จะเป็นโซนล้อบบี้ของโรงแรม จัดได้แบบกระทัดรัด และเป็นระเบียบ โทนสีดูสบายตาดี
ภายในห้องพักก็โทนสีขาว สะอาดตาดี เอาจริงๆความรู้สึกส่วนตัวของเรา 2 คนเลยคือชอบตรงที่เปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเจอ ชุดนอนวางไว้ให้บนที่นอน คือน่ารักมาก ชอบรายละเอียดตรงนี้ แล้วก็อุ่นด้วยนะ ใครที่ลืมเอาชุดนอนมาด้วย หรือมาพักที่นี่สบาย หายห่วงเรื่องชุดนอนเพราะโรงแรมมีให้จ้า ^_^
ห้องน้ำอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่มีอ่างอาบน้ำสำหรับไว้ให้เรานอนแช่น้ำอุ่นได้ อ้อแล้วก็ที่ระบบที่ฉีดตูดแบบอัตโนมัติด้วยนะ ชอบๆ 5555
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีบริการให้ภายในห้อง มีครบหมดเลย อ้อแต่ที่นี่จะไม่มีน้ำดื่มไว้ให้ในห้องนะคะ แต่สามารถเดินไปซื้อที่ Family Mart ได้ ซึ่งอยู่ใกล้โรงแรมเดินไปประมาณ 2 นาทีก็ถึงแล้ว
โซนที่นั่งงทานข้าว บรรยากาศชิลล์ๆ กินไปนั่งดูหิมะตกไป แต่ถ้าเดินออกไปหนาวจ้าาาาา 555555
ห้องอาหารของที่นี่จะติดอยู่กับล้อบบี้ อาหารเช้าของที่นี่ถือว่ารสชาติดี ทานได้เกือบทุกเมนูเลย พนักงานที่นี่ก็น่ารัก บริการดีค่ะ
อันนี้จะเป็นบางส่วนของเมนูอาหารเช้านะคะ อาหารเช้า เปิด-ปิด เวลา 06:30น. – 09:30น.

ช่วงที่เราไปอยู่ในช่วงปลายเดือน ธันวาคม ตอนที่ไปหน้าโรงแรมเค้ากำลังมีจัดไฟเต็มเลย แล้วด้วยโรงแรมตั้งอยู่ที่หน้าสวนโอโดริอยู่แล้ว คือเดินไปถ่ายรูปได้เลย ช่วงที่ไปหิมะกำลังตก ขาวโพลน ถ่ายรูปกับไฟพร้อมท่ามกลางหิมะคือฟินมาก แต่หนาวก็หนาว ก็ทนเอาเพื่อรูปสวยๆ 55555

เหมือนซีรีย์เกาหลีมั้ยล่ะ 555555

ตามมาดูกันค่ะ ว่าทริปนี้เราไป กิน เที่ยว ช้อป ที่ไหนกันบ้าง ขอบอกเลยว่าทริปนี้รูปเยอะมากกกกก 5555 เพราะมีแต่ที่สวยๆทั้งนั้นนนนน

ตลาดปลาตอนเช้า ที่ใกล้ๆโรงแรมก็มีนะคะ นั่งรถมาประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี่จะมีของทะเลสดๆเยอะมาก ว่าแล้วเราก็มาจัดแซลมอนซาซมิกันสักหน่อย
อันนี้ใครมาญี่ปุ่นแล้วต้องห้ามพลาดเลย เมล่อนญี่ปุ่นกินครั้งแรกกัดไปปุ๊บบ เย็นฟันจ้าาา 55555 ลืมไปว่าเรามาหน้าหนาว เมล่อนที่นี่หวานและหอมมาก เค้ามีแบ่งขายเป็นชิ้นด้วย ชิ้ละ 100เยนประมาณ 30บาทไทย ซื้อกินหลายชินเลย 5555

Otaru canal area จะว่าไปตรงนี้นี่เป็นจุดแลนด์มาร์คเลยก้ว่าได้ ที่ใครมาเที่ยวเมืองซัปโปโรแล้วต้องห้ามพลาด ริมคลองตรงนี้จะอยู่ในกลางเมืองโอตารุเลย ต้องมาแวะแชะถ่ายรูปกันงั้นเดี๋ยวมาไม่ถึงโอตารุ 55555

แถวนี้ของกินก็อร่อยนะ อย่างร้านเบเกอรี่ร้าน KITAKARO เป็นขนมปังซูครีมอร่อยมาก ไส้ทะลักกันเลยทีเดียว ขนมปังก็นุ่มมาก คือซื้อมาแล้วต้องรีบกินเลยตอนอุ่น มันจะได้อรรถรสจริงๆ
Music and glass museum มุมนี้ก็ต้องไม่พลาด ด้านในจะเป็นร้านขายเครื่องแก้วเซรามิค และกล่องดนตรี และอื่นด้วย ที่ทำออกมาแล้วจะมีเสียงดนตรีอยู่ด้วยเดินไปนี่มีแต่เสียงเพลง ในร้านเค้าให้ถ่ายรูปได้ด้วยนะคะ
ส่วนหน้าร้านที่ต้องไม่พลาดเลยคือ นาฬิกาไอน้ำ ซึ่งมีแค่ 2 เรือนในโลกเท่านั้นจ้าาา จะมีอยู่ที่ ประเทศแคนาดา แล้วก็ญี่ปุ่นที่เมืองโอตารุ นั่นเอง และทุกๆ 15นาทีจะมีไอพ่นออกมาครั้งนึง แต่วันที่เราไปเค้าปรับปรุงอยู่ อดเห็นจ้า แต้มบุญยังไม่ถึง เดี๋ยวตองไปใหม่ 55555
ที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด Old government เป็นตึกของราชการในยุคสมัยก่อน จุดเด่นของตึกนี้จะก่อสร้างเป็นแนวอิฐแดง ถ่ายรูปเด่นมาก

ทริปนี้บอกเลย รูปคู่เยอะมาก 5555
มาช้ปปิ้งกันต่อที่ Susukino ตรงนี้จะอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพัก สามารถเดินจากโรงแรมมาได้เลย ขอบอกว่าของขายเพียบบบบบ
วันที่ไปหิมะตกหนักมากกกกกก
มาดูมื้อเย็นกันดีกว่า มื้อนี้จัดบุฟเฟ่ต์ชาบูจ้า เนื้อดีมากละลายในปาก อร่อยลื้มมมมม

ศาลเจ้าฮอกไกโด Hokkaido Shrine ตรงนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะนิดนึง เพราะเป็นสถานที่ ที่คนมาขอพรกันเยอะมาก และเป็นที่เคารพนับถือของคนญี่ปุ่น ก่อนเข้าไปในศาลคือต้องเอาน้ำมาล้างมือ ล้างหน้าให้สะอาดก่อน ก่อนเข้าไปขอพรข้างในศาลด้วย

วันนี้ช่างภาพเรามาออกหน้ากล้องเป็นนายแบบบ้าง 555
จุดชมวิวโอคุรายาม่า Okurayama ski jump ตรงนี้จะเป็นทั้งจุดชมวิว และสำหรับมาเล่นสกี แต่วันที่เอี้ยงกับอู๊ดไปสกียังเล่นไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า หิมะยังไม่หนามาก ก็ไชมวิวกันได้อย่างเดียวก่อน

และสำหรับคืนสุดท้ายก่อนบินเช้าอีกวัน เราไปนอนกัน คือที่ Best western Plus Hotel Fino Chitose ที่นี่จะอยู่ใกล้กับสนามบินมากประมาณ 5 นาทีก็ถึงสนามบินแล้ว

ที่สาขานี้โรงแรมจะใหญ่กว่าในเมืองซัปโปโร มีทั้งหมด 7 ชั้น รองรับลูกค้าได้เยอะพอสมควรเลยล่ะค่ะ
มุมล้อบบี้กว้างมาก มีที่รองรับลูกค้าได้เยอะเลยล่ะ่
มุมที่มีให้บริการลูกค้าก็มีนะคะ ทั้งตู้กดน้ำดื่ม ตู้กดน้ำร้อนน้ำเย็น ฟิตเนส รวมไปถึงเครื่องซักผ้าหยอดเรียญ

ตามมาดูห้องที่เราพักกันดีกว่าค่ะ
ภายในห้องพักตกแต่งโทนสีขาว สบายตา มีพื้นที่สำหรับวางของได้เยอะด้วยค่ะ
ห้องน้ำที่นี่ก็จะเหมือนกันกับที่ Best western Sapporo Odori Koen Hotel ชอบตรงที่มีอ่าวให้นอนแช่นำอุ่นด้วยนี่แหละค่ะ กลับมาจากข้างนอกแล้วเข้ามานอนแช่น้ำอุ่นผ่อนคลายก่อนนอน
ห้องอาหารเช้าที่นี่ จะอยู่ชั้นล่างสุด ใก้ๆกับล้อบบี้เลย ห้องอาหารที่นี่จะกว้าง แล้วก็ไลน์อาหารก็เยอะเหมือนกันค่ะ เพราะว่าห้องที่นี่มีจำนวนมาก รองรับลูกค้าได้เยอะ เพราะอยู่ใกล้สนามบิน แล้วก็ Mitsui outlet ด้วยค่ะ

แล้วไปต่างประเทศที่ต้องไม่ควรพลาดเลยคือซิมโทรศัพท์จ้า ทริปนี้เราไปโดยใช้ซิม Travel Sim Asia กับ Japan Travel Sim ซึ่งทั้ง 2 ซิมนี้สามารถใช้ได้จริงที่ญี่ปุ่นค่ะ สัญญาณดีไม่กระตุกเลยค่ะ

น้ำยาบ้วนปาก hom hom อันนี้คือดีมาก ลงเครื่องมาถึงเช้าไม่ต้องแปรงฟันเลย ใช้น้ำยาบ้วนปากซ่าไปทั้งปากเลย 1 ซองใช้ได้ 1 ครั้ง เป็นแบบพกพา เพียงแค่ฉีกซองแล้วก็ใส่ปากบ้วนๆเลย
พกพาง่ายปริมาณ 10 Ml. ต่อ 1 ซองเล็ก และใน 1 กล่องมี 10 ซองเล็ก รวมเป็น 100 Ml. สามารถพกพาขึ้นบนเครื่องได้สบายเลยค่ะ
หมอนรองคอนี่ก็สำคัญเหมือนกัน เวลนั่งเครื่องใช้ระยะเวลานานๆ ทริปนี้เอี้ยงใช้หมอนรองคอของ Travel Blue พกพาง่าย มีกระเป๋าใส่ให้ด้วย ซับพอร์ทต้นคอได้ดีเลยค่ะ

ทริปนี้เป็นอีก 1 ทริปที่ทำให้เรา 2คนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆในต่างแดน และประทับใจมากค่ะ หากเพื่อนท่านไหนที่อยากไปสัมผัสประสบการณ์กับเราแบบนี้ แนะนำเลยค่ะว่าสมัครสมาชิก Best Western Reward ได้ที่เว็บ https://www.bestwestern.com

หรือใครที่เป็นสมาชิกแล้วก็อย่าลืมไปดูสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกกันด้วยนะคะ เพราะที่นี่เค้าจะมีโปรพิเศษๆสำหรับสมาชิกเยอะเลย และก็มีสิทธิ์ได้ลุ้นเที่ยวต่างประเทศเหมือนเราด้วยน๊าาาาา

ไปทั้งที พร็อพต้องจัดเต็ม จะซื้อชุดมันก็แพ๊ง…แพง แนะนำหาร้านเช่าสะดวกกว่า

เราจัดมาจากร้าน Winter Collection เช่าเสื้อกันหนาว เช่า-ขาย ชุดกันหนาว เช่าเสื้อโค้ท

เริ่มต้น 600 บาท เค้ามีจัดเป็นเซ็ทให้เราด้วย บอกเลยว่าดีงาม ได้ชุดสวยๆ ไปถ่ายรูปแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
Line@ : @wintercollection
Tel : 095-9624514 , 095-9542514

Back To Top
Share
Hide Buttons