นั่งรถไฟไปหลวงพระบาง
นั่งรถไฟไปหลวงพระบาง สปป.ลาว เที่ยวเองได้ ง่ายมาก นั่งรถไฟความเร็วสูงไปเที่ยวลาวกัน
How to เตรียมตัวยังไงก่อนไปเที่ยวลาว ต้องใช้อะไรบ้าง เดินทางอย่างไร งบเท่าไหร่ รีวิวนี้มีคำตอบ
#การเดินทาง ✈️
1. เรานั่งสายการบิน Vietjet มาลง อุดรฯ เที่ยวเช้า เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเวียงจันทน์ก่อนไปขึ้นรถไฟ
สามารถบินได้ทั้งจาก กทม. – อุดร และบินข้ามภาคจาก ภูเก็ต – อุดร ก็ได้เช่นกัน เดินทางง่ายสะดวกสบาย แค่ 1 ชม. ก็ถึงอุดรแล้ว
📍 ช่องทางการจอง >> www.vietjetair.com
2. เหมารถ จาก สนามบินอุดรฯ มายัง ด่านหนองคาย (1,200 บาท)
เหมารถจากสนามบินอุดรฯ มายังด่านหนองคาย (1,200 บาท) เราไปกัน 4 คน ตกคนละ 300 บาท
ใช้เวลาเดินทาง จากสนามบิน อุดร – ด่านหนองคาย ประมาณ 1 ชม.
เมื่อถึงด่านหนองคาย เราเตรียมเอกสาร Passport เพื่อให้ ตม. ฝั่งไทยตรวจ ถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือ และ stamp เพื่อผ่านแดนไปยัง สปป.ลาวก่อน
3. นั่งรถ shutter bus ข้ามฝั่งมายังฝั่งลาว (30 บาท)
หลังจากผ่าน ตม. ฝั่งไทย เดินออกมาขึ้นรถ shutter bus เพื่อข้ามไปยังฝั่งลาว คนละ 30 บาท รถมีวิ่งทุก 15 นาที
รถสุดชิค นั่งชิลๆ รับลมธรรมชาติ เบียดๆ กันไป นั่งไปไม่เกิน 5 นาที ก็ถึง ตม. ฝั่งลาว
หลังจากผ่านด่าน ตม. สปป.ลาว ก็เดินออกมา มองไปทางขวา จะเจอกับร้านรับแลกเงิน ป้ายสีขาวตามรูป เดินเข้าไปแลกได้เลย
หลังจากแลกเงินเสร็จแล้ว เดินกลับมาฝั่งที่เราออกมาจาก ตม. มาหาซื้อซิมกันก่อน เราจัดแบบ 15G ราคา 80,000 กีบ (ประมาณ 160 บาท) ให้เค้าเปลี่ยนและเปิดใช้บริการได้เลย
4. เหมารถเที่ยว เวียงจันทน์ จากด่านลาว ก่อนไปส่งสถานีรถไฟ (700 บาท) สามารถต่อรองได้ แล้วแต่ความสะดวก
เนื่องจากเราอยากแวะเที่ยวเวียงจันทน์เลยเลือกบินมาไฟท์เช้า มาถึงฝั่งลาวยังพอมีเวลาเที่ยวชม Landmark เวียงจันทน์
ออกมาจะมีคนขับรถมาถามเพียบบบบ ใจไม่แข็งเป็นเสร็จเหมือนเรา 555 เราเลยให้พาเที่ยว
พร้อมส่งสถานีรถไฟ เค้าคิด 700 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับต่อรอง) ส่วนใครไม่อยากเที่ยว จะไปสถานีรถไฟเลย
ก็สามารถนั่งรถจากป้ายรถเมล์ที่ด่าน ไปลงตลาดเช้าเมืองเวียงจันทน์ แล้วต่อรถที่ตลาดเช้าไปยัง สถานีรถไฟได้เลย
แวะชม Landmark เวียงจันทน์ ประตูชัย เช็คอิน ถึงเวียงจันทน์แล้ว
เวียงจันทน์ แฟชั่นวีค
อีก 1 จุดที่เป็น landmark เวียงจันทน์ก็ที่นี่เลย พระธาตุหลวง เวียงจันทน์ ພຣະ ທາດຫຼວງ
คนลาวเสียค่าเข้าคนละ 10,000 กีบ ประมาณ 20 บาท / ชาวต่างชาติ คนละ 30,000 กีบ ประมาณ 60 บาท
แต่ช่วงที่เราไปเค้าพักเที่ยง อดเข้า ได้ชมแต่ข้างนอกแทน ช่วงพักกลางวัน 12.00 – 13.30 น.
ก่อนเข้าสถานีรถไฟ EMU เราแนะนำให้ทานข้าวก่อน เรานั่งรถไฟรอบ 16.05 น. เพราะกว่าจะถึง หลวงพระบาง ก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว
เราแวะทานกันที่ ร้าน ເຂົ້າປຸ້ນແຈ່ວຂີງ ວຽງຈະເລີນ ร้านข้าวปุ้นแจ่วขิง ป้าพัน หมดไป 125,000 (250 บาท 4 คน คนละ 63บาท)
ชุดนึงทานได้ 2-4 คน กินกันอิ่มเลย หรือสั่งส้มตำ ไก่ย่างเพิ่มที่ร้านก็มีขาย พิกัด : https://goo.gl/maps/Qxz9jLvSqiBDUcMi8
5. ค่าตั๋วรถไฟความเร็วสูง 715 บาท จองผ่านเอเจน (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วง)
ค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงจาก เวียงจันทน์ – หลวงพระบาง 715 บาท เป็นแบบชั้น 2 คนจะค่อนข้างแน่นวุ่นวายหน่อย
เราจองผ่านเอเจน สามารถลองดูราคาได้ มีราคาถูกกว่านี้หลายๆ เจ้า หาจากกลุ่ม เที่ยวลาว ได้เลย
หรือ ถ้าใครอยากได้แบบส่วนตัว private หน่อย ก็จองแบบ First Class หรือ Business Class ไปได้เลย ราคาแพงกว่ากันไม่กี่ร้อย
พกเงินล้านไปเที่ยวหลวงพระบางกัน ไป ปาย ป้ายยย
มาถึงสถานีรถไฟไวไปหน่อย นั่งรอด้านนอกไปจ้า ร้อนมาก เค้ายังไม่เปิดให้เข้าสถานี ที่นี่จะเปิดเป็นรอบๆ
แนะนำมาก่อนเวลาซัก 1 ชม. พอ มาก่อนนาน ก็ไม่มีที่นั่งรอ ร้อนมาก อย่าหาทำ 555
ด้านในสถานีใหญ่โต มีที่นั่งเยอะมาก นั่งรอเวลาวนไปค่ะ ช่วงที่เราไปเป็นวันธรรมดา คนไม่ค่อยเยอะ สามารถ walk in มาซื้อตั๋วที่สถานีได้
แต่ถ้าไปวันหยุดเราแนะนำจองตั๋วล่วงหน้าดีกว่า จองล่วงหน้าได้สูงสุด 3 วัน จองผ่านเอเจนฝั่งไทย หรือ ฝั่งลาวก็ได้เช่นกัน
ใช้เวลาเดินทาง จากเวียงจันทน์ – หลวงพระบาง ประมาณ 1.50 ชม. ระหว่างทางนั่งชมวิวเพลินๆ วิวสวยมาก
โดยเฉพาะช่วง วังเวียง วิวอย่างงาม มีภูเขาสลับซับซ้อนสวยงาม เห็นวิวแบบนี้ รอบหน้าว่าจะแวะเที่ยวซักหน่อย
6. นั่งรถตู้จากสถานีรถไฟเข้าเมืองหลวงพระบาง (คนละ 35,000 กีบ หรือ 70 บาท ถ้าเหมา 1-4 คน 200,000 กีบ หรือ 400 บาท ตกคนละ100บาท)
เมื่อเดินทางมาถึง สถานีหลวงพระบาง เดินลงบันไดมายังหน้าสถานี จะมีจุดขึ้นรถเข้าเมืองหลวงพระบาง
ค่าบริการ คนละ 35,000 กีบ (ประมาณ 70 บาท) หรือ ถ้ามากันหลายคน สามารถเหมาส่วนตัวได้ ราคาตามรูปเลยจ้า
เรามากัน 4 คน เหมาๆ ไป 200,000 กีบ (ประมาณ 400 บาท) ตกคนละ 100 บาท นั่งชิลๆ ประมาณ 15-20 นาที
รีวิวเที่ยวหลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน
จองที่พัก ห ล ว ง พ ร ะ บ า ง >> https://bit.ly/luangpb